ถอดรหัสเนื้อสัมผัสอาหารเปียกแมว – แมวเลือกชอบแบบไหนกันนะ?

แม้ว่าเราจะเลือกอาหารจากหน้าตาน่ากินเป็นอันดับต้น ๆ (ดูจากรูปอาหารใน Instagram ก็รู้!) แต่แมวกลับตรงกันข้ามเลย — น้องไม่สนใจหน้าตาอาหารเลยแม้แต่นิดเดียว ที่น่าสนใจคือ รสชาติยังไม่ได้เป็นตัวตัดสินหลักด้วยซ้ำ! เพราะแมวมีปุ่มรับรสแค่ประมาณ 500 จุด ในขณะที่คนเรามีมากถึง 9,000 ปุ่มรับรส! นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “เนื้อสัมผัส” ของอาหารเปียก กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แมวตัดสินใจว่าจะกินหรือเมิน

แมวไม่ได้เลือกอาหารจากหน้าตาหรือรสชาติเท่านั้น แต่พวกเขาใช้ “จมูก” และ “ความรู้สึกขณะกิน” เป็นหลัก
ทั้งกลิ่นอาหาร และเนื้อสัมผัสตอนเคี้ยวหรือเลีย ว่านุ่มแค่ไหน หยิบกินง่ายหรือเปล่า — นั่นแหละคือหัวใจสำคัญของอาหารเปียกที่แมวชอบที่สุด และอีกสัญญาณที่บอกว่า “มื้อนี้ใช่เลย” ก็คือ แมวจะล้างหน้า–ล้างเท้า แล้วม้วนตัวนอนหลับในมุมโปรด เพราะอิ่มแบบสุขใจและสบายท้องสุด ๆ

แมวเลือกกินยังไง? ทำไมถึงชอบบางสูตรแต่ไม่แตะบางอย่างเลย

 

ความชอบในการกินของแมว ส่วนใหญ่มาจากประสบการณ์ตอนเป็นลูกแมว ทั้งประเภทอาหารที่เคยกิน และบรรยากาศขณะกินในช่วงวัยเด็ก เช่น ลูกแมวที่เกิดตามท้องถนน ต้องแย่งอาหารกัน หรือได้กินอะไรก็ได้เพื่อความอยู่รอด ย่อมมี “ความทรงจำเรื่องอาหาร” ที่ต่างจากลูกแมวที่เติบโตในบ้านที่ปลอดภัย มีอาหารที่ดีและมื้อที่สงบ ประสบการณ์ในช่วงนั้นมีผลต่อความชอบ–ไม่ชอบ รวมถึงพฤติกรรมการกินเมื่อตอนโตอย่างมากเลย

ดังนั้น การให้แมวลองกินทั้งอาหารเม็ดและอาหารเปียกหลากหลายเนื้อสัมผัสตั้งแต่เล็ก ๆ เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้เจ้าของจัดมื้ออาหารได้ง่ายขึ้น และแมวกินได้อย่างมีความสุขแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างชัดเจนด้วยค่ะ อาหารเม็ด ช่วยดูแลสุขภาพฟัน ด้วยแรงขัดจากการเคี้ยว อาหารเปียก มีความชุ่มน้ำสูง ช่วยให้น้องได้รับน้ำเพียงพอ เพราะแมวส่วนใหญ่ไม่ค่อยดื่มน้ำเองมากนัก ดังนั้น การให้น้องกินอาหารแบบ “ผสมทั้งเม็ดและเปียก” จึงเป็นทางเลือกที่ลงตัวทั้งเรื่องสุขภาพและความอร่อย

แมวเลือกสูตรโปรด…ด้วยจมูก!

 

แมวส่วนใหญ่จะดมอาหารในชามก่อนกินเสมอ และถ้ากลิ่นไม่ถูกใจ…เจ้านายอาจเดินจากไปแบบไม่แตะสักคำเลยก็ได้

แมวมีตัวรับกลิ่นมากถึง 65 ล้านจุด ในขณะที่คนเรามีแค่ 15 ล้านเท่านั้น! นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า กลิ่นหอม คือสิ่งสำคัญมากในการเลือกอาหารให้แมว เพราะถ้ากลิ่นไม่โดนใจ…ต่อให้อร่อยแค่ไหน เจ้านายก็อาจไม่ยอมแตะเลย

เวลาเลือกเนื้อสัมผัสของอาหารเปียก (หรือรูปทรงของอาหารเม็ด) ให้นึกถึงเรื่อง โกลดิล็อกส์กับหมีสามตัว ที่เธอลองชิมโจ๊ก นั่งเก้าอี้ และนอนเตียง จนเจออันที่ “พอดีที่สุด” สำหรับตัวเอง แมวก็เหมือนกันค่ะ — ต้องลองหลายแบบจนเจอเนื้อสัมผัสที่ “ใช่เลย!” นุ่มเกินก็ไม่ชอบ แข็งไปก็เมิน ต้องเจอสูตรที่พอดี…ถึงจะกินอย่างมีความสุข

แมวจะตัดสินใจว่าจะกินหรือไม่ จากความง่ายในการคาบอาหาร และความรู้สึกในปากขณะเคี้ยว เนื้อสัมผัสจึงเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้กลิ่นหรือรสชาติ และเพราะแมวแต่ละตัวมีนิสัยเฉพาะตัว ในบ้านที่มีแมวหลายตัว ก็อาจมีความชอบต่างกันคนละแบบเลยก็ได้

ตามธรรมชาติ เหยื่อของแมวในป่ามีหลากหลายเนื้อสัมผัส ดังนั้น ความชอบเรื่องเนื้อสัมผัสจึงเป็นสัญชาตญาณที่ติดตัวมา ในบ้าน แมวบางตัวอาจชอบอาหารที่บดนุ่ม ๆ บางตัวชอบแบบมีน้ำเกรวี่เยอะ ๆ หรือบางตัวอาจชอบเนื้อแบบเป็นชิ้นเคี้ยวเพลิน โชคดีที่ทุกวันนี้มีตัวเลือกมากมาย ให้แมวของคุณได้ “ลองแบบโกลดิล็อกส์” และเจอเนื้อสัมผัสที่ “พอดีเป๊ะ” สำหรับตัวเอง

รวมทุกเนื้อสัมผัสอาหารเปียกที่แมวต้องลอง!

 

Wellness Pet Food มีตัวเลือกเนื้อสัมผัสของอาหารเปียกสำหรับแมวให้เลือกหลากหลาย

เราจะอธิบายแต่ละเนื้อสัมผัสไว้ด้านล่างนี้

หมายเหตุ: หลายเนื้อสัมผัสอาจคล้ายคลึงกับแบรนด์อื่น แต่บางรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Wellness เท่านั้น ซึ่งจะแสดงด้วยสัญลักษณ์ *

ภาพประกอบใช้เพื่ออ้างอิงลักษณะของเนื้อสัมผัสเท่านั้น สีของอาหารอาจแตกต่างกันไปในแต่ละสูตร

เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของเราเป็นอาหารธรรมชาติ คุณอาจสังเกตเห็นความแตกต่างเล็กน้อยในเรื่องของความข้น รูปร่าง ขนาด หรือกลิ่นได้บ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

  1. Pâté: เนื้อบดเนียนละเอียด สม่ำเสมอทั่วทั้งสูตร สัมผัสของพาเต้อาจแตกต่างกันเล็กน้อย บางสูตรนุ่มละมุนคล้ายครีม บางสูตรแน่นและจับตัวเป็นรูปได้มากกว่า สามารถตักทาได้ง่าย เหมาะกับแมวที่ชอบเลียหรือเคี้ยวง่ายwellness wet cat food pate
  2. Minced: เนื้อสัตว์สับละเอียดเป็นชิ้นเล็ก ๆ คล้ายเศษขนมปัง เสิร์ฟในน้ำเกรวี่บางเบา เคี้ยวง่าย กลิ่นหอม เหมาะกับแมวที่ชอบเนื้อสัมผัสเบา ๆ และเลียซอสไปด้วยwellness wet cat food minced
  3. Gravies: ชิ้นเนื้อโปรตีนขนาดเล็ก รูปร่างไม่สม่ำเสมอ เสิร์ฟในน้ำเกรวี่เข้มข้น ให้สัมผัสเคี้ยวเพลิน พร้อมซอสหอม ๆ ที่แมวหลายตัวชอบเลียwellness wet cat food gravies
  4. Morsels (หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าลูกเต๋า): ชิ้นเนื้อโปรตีนรูปทรงสี่เหลี่ยมชัดเจน มีขนาดใหญ่กว่าเนื้อในสูตร Gravies เล็กน้อย เสิร์ฟในน้ำเกรวี่บางเบา เคี้ยวสนุก ได้รสสัมผัสเต็มคำ เหมาะกับแมวที่ชอบเนื้อเป็นชิ้นwellness wet cat food morsels
  5. Flaked: ชิ้นปลาแบบบาง ยาว และแบน คล้ายเนื้อปลาทูน่าที่แยกเป็นเส้น ๆ เสิร์ฟในน้ำซุป (broth) ให้สัมผัสเบา ๆ เหมาะกับแมวที่ชอบเลียและกินเนื้อนุ่มบางเป็นเส้น

6. Chunky: ชิ้นเนื้อหนา เต็มคำ ผสมอยู่ในซอสข้น พร้อมมีเส้นเนื้อเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วสูตร ให้สัมผัสหลากหลาย เคี้ยวสนุกทั้งชิ้นใหญ่และเส้นเล็ก เหมาะกับแมวที่ชอบเนื้อแน่นและรสเข้มข้น

7. Shredded: เนื้อเส้นยาว บาง ขนาดไม่เท่ากัน กระจายตัวในสูตร เสิร์ฟพร้อมน้ำเกรวี่บางเบา เหมาะกับแมวที่ชอบเลียและค่อย ๆ เคี้ยวเนื้อทีละเส้น ให้สัมผัสเบาแต่เคี้ยวเพลิน

8. Sliced: ชิ้นเนื้อมีลักษณะกว้าง ยาว และแบน ใหญ่กว่าเนื้อแบบ Minced หรือ Cubed และมีขนาดสม่ำเสมอทั้งชิ้นเสิร์ฟในน้ำเกรวี่บางเบา เหมาะกับแมวที่ชอบเคี้ยวเนื้อแบบเต็มคำ แต่ไม่ต้องการเนื้อชิ้นหนาเกินไป

9. *Hearty Cuts: คล้ายกับเนื้อแบบ Sliced แต่ชิ้นเนื้อจะยาวและแคบกว่า เสิร์ฟในน้ำเกรวี่บางเบา ให้สัมผัสที่ยืดยาว เคี้ยวเพลิน เหมาะกับแมวที่ชอบเส้นเนื้อเต็มคำแต่ไม่หนาเกินไป

10. Shredded Sides in Broth: ซุปใสกลิ่นหอม เสิร์ฟพร้อมเนื้อปลา ไก่ หรือเนื้อสัตว์แท้ที่ถูกฉีกเป็นเส้นเล็ก ๆ เนื้อสัมผัสละเอียดในน้ำซุปใส (broth) ให้กลิ่นและรสชาติชวนกิน เหมาะสำหรับใช้เป็น “มิกเซอร์” หรือ “ท็อปเปอร์” เพื่อเพิ่มความน่ากิน และเพิ่มความชุ่มน้ำ ควรเสิร์ฟควบคู่กับอาหารหลักที่สมดุล เช่น อาหารเม็ดหรืออาหารเปียกสูตรครบถ้วน

 

11. Flaked Sides in Broth: ซุปใสหอมกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมชิ้นปลาแท้แบบบาง แบน และแยกเป็นเส้น (flaked) ให้สัมผัสเบา ๆ เหมือนปลาทูน่าที่แยกตัวเป็นแผ่นเล็ก ๆ ในน้ำซุป ใช้เป็น “มิกเซอร์” หรือ “ท็อปเปอร์” เพื่อเพิ่มความหอม ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ควรเสิร์ฟร่วมกับอาหารหลักสูตรสมดุล เช่น อาหารเม็ดหรืออาหารเปียก

12. *Duo-layer:

อาหารสองชั้นในหนึ่งมื้อ เสิร์ฟทั้งเนื้อบดเนียน (Pâté) และชิ้นเนื้อทรงลูกเต๋า (Cubed)

ชั้นล่าง: พาเต้เนียนละเอียด

ชั้นบน: ชิ้นเนื้อโปรตีนรูปทรงสี่เหลี่ยม

วิธีเสิร์ฟ: ลอกฝา แล้วคว่ำถ้วยลงบนจานให้อาหารไหลออกเป็นชั้น ๆ

ให้สัมผัสหลากหลายในคำเดียว นุ่ม+แน่น ครบจบในมื้อเดียว!

ลองให้แมวชิมก่อนเลือกสูตรจริง! รู้ได้เลยว่าเจ้านายชอบแบบไหน

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเริ่มรู้สึกว่า “เยอะจังเลย!” ไม่เป็นไรเลยค่ะ! การหาสูตรอาหารเปียกที่แมวชอบจริง ๆ อาจต้องลองผิดลองถูกกันบ้าง ค่อย ๆ ทดลองไปทีละสูตร แล้วสังเกตพฤติกรรมของเจ้านาย เหนื่อยได้…แต่ห้ามยอมแพ้! ทาสที่แท้จริงต้อง “อยู่เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้น้องแมว” เสมอ

ถ้ารู้สึกว่าเลือกอาหารให้แมวแล้วยังไม่โดนใจสักที ลองจัด “ฟู้ดไทรอัล” เล็ก ๆ ด้วยตัวเอง ก็เป็นวิธีที่ดี เพียงวางอาหารคนละเนื้อสัมผัสในปริมาณเล็กน้อย แล้วดูว่าเจ้านายชอบแบบไหนที่สุด และไม่ต้องกังวล — Wellness รับประกันความพึงพอใจ 100% Catisfaction Guarantee ถ้าแมวไม่ชอบจริง ๆ สามารถคืนสินค้าเพื่อขอเงินคืนได้เต็มจำนวน หากมีคำถามเพิ่มเติม ทีมบริการลูกค้าพร้อมช่วยแนะนำและให้คำปรึกษาเสมอ

หากไม่ได้ระบุไว้เป็นพิเศษ สูตรอาหารทั้งหมดด้านบนถือเป็นอาหารหลักที่มีสารอาหารครบถ้วน ทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพของแมว โดยแบรนด์อาหารแมวของ Wellness เช่น CORE และ Wellness Complete Health มีให้เลือกหลากหลายเนื้อสัมผัส ทั้งในรูปแบบกระป๋องและแบบซองพร้อมเสิร์ฟขนาดพอดีมื้อ

มื้อนี้…อร่อยสุด ๆ ไปเลย!

 

cat snuggling

เจ้านายแฮปปี้หลังมื้ออร่อย! Yerlin Matu on Unsplash

จุดที่คนกับแมวเห็นตรงกันก็คือ… ต้องรู้สึกดีหลังจากมื้ออาหารอร่อย!
สัดส่วนของโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตในอาหาร ส่งผลต่อความสบายตัวของแมวขณะย่อยอาหาร
ถ้าน้องรู้สึกสบาย ไม่แน่น ไม่อืด — ก็จะรู้สึกผ่อนคลายและแฮปปี้หลังมื้ออาหาร แมวยังสามารถ “เลือก” เนื้อสัมผัสที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง! และสำหรับเจ้าของ… แค่เห็นน้องยอมกินอย่างเอร็ดอร่อย ก็รู้สึกสุขใจแล้ว เพราะฉะนั้น…เจ้านายแฮปปี้ = ทาสก็แฮปปี้ด้วย! วิน–วินทั้งคู่เลย

จะกินดีไม่ดี…ที่วางชามก็มีผล!

 

เพราะประสบการณ์มื้ออาหารมีผลต่อพฤติกรรมของแมวตลอดชีวิต ตำแหน่งที่วางชามอาหารจึงสำคัญ และสามารถส่งผลต่อการกินของน้องได้
✅ ควรวางชามในที่ เงียบสงบ ไม่ใช่จุดที่มีคนเดินผ่านบ่อย
✅ และให้น้องสามารถ มองเห็นรอบตัวได้ชัดเจน เพื่อรู้สึกปลอดภัยเวลากิน

ควรล้างชามอาหารทุกครั้งหลังมื้ออาหาร — รวมถึงมื้อที่เป็นอาหารเม็ดด้วยนะ เพราะอาหารเปียกถ้าทิ้งไว้นาน จะเสียรสชาติ และคุณภาพก็เสื่อมลง ถ้าน้องกินไม่หมดในมื้อเดียว ควรเก็บใส่ตู้เย็นทันทีหลังเสิร์ฟ และอย่าลืมว่า… รูปทรงของชามอาหารก็มีผลต่อการกินของแมว แมวส่วนใหญ่มักชอบ ชามทรงรีหรือแบน เพราะกินง่าย ไม่ชนหนวด และไม่ลึกเกินไป

แมวจำนวนมากชอบกินอาหารทีละน้อย แต่บ่อยครั้งตลอดทั้งวัน การใช้ชามที่มีฝาปิดจะช่วยให้สามารถวางอาหารเปียกทิ้งไว้ได้นานขึ้นโดยไม่เสียเร็ว และถ้าอยู่ในบ้านที่มีสัตว์หลายตัว การใช้ชามอาหารอัจฉริยะที่เปิดเฉพาะเมื่อแมวตัวนั้นเข้าใกล้ (ด้วยไมโครชิป) จะช่วยให้

  • รักษาความสดใหม่ของอาหาร
  • มั่นใจว่าแมวแต่ละตัวได้รับอาหารครบ
  • และ ป้องกันไม่ให้สุนัขหรือแมวตัวอื่นมาแอบกิน

👉 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :
ทักแชท: m.me/wellnesspetfoodthailand
Website: https://www.wellnesspetfood.co.th/
.
🌟แชร์ชีวิตที่ดีร่วมกัน แชร์ WELLNESS อาหารสัตว์เลี้ยงที่แนะนำโดยสัตวแพทย์ 🌟

🛒 หาซื้อได้แล้ววันนี้ ที่ร้านเพ็ทช็อปชั้นนำทั่วไป

เกี่ยวกับหน้านี้

วันที่:

25/06/2019

    รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างดีที่สุด

    ลงชื่อเข้าใช้