ผู้เชี่ยวชาญพฤติกรรมแมวแนะนำ: วิธีลดความเครียดให้แมวของคุณ

ความเครียด เรามักได้ยินคำนี้บ่อย ๆ ในเรื่องของมนุษย์ แต่มันก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับแมวเช่นกัน แม้ว่าความเครียดจะหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างสิ้นเชิงในชีวิต และในระดับหนึ่งก็จำเป็นเพื่อช่วยให้เราทุกคนรอดชีวิต (ความเครียดเฉียบพลันจะกระตุ้นปฏิกิริยาสู้หรือหนี) แต่เราสามารถจำกัดปริมาณความเครียดที่แมวต้องเผชิญได้
ประเภทของความเครียดในแมว
ความเครียดเฉียบพลัน:
นี่คือสิ่งที่เจ้าของแมวมักจะสังเกตเห็นได้ง่ายในแมว ลองนึกภาพแมวของคุณตอนอยู่บนโต๊ะตรวจของสัตวแพทย์ หรือจำวันที่คุณพาแมวตัวที่สองกลับบ้าน หรือย้ายไปบ้านใหม่
ความเครียดเรื้อรัง:
สิ่งนี้อาจถูกมองข้ามได้ง่าย นี่คือความเครียดในชีวิตประจำวันที่แมวอาจเจอจากหลายสาเหตุ พฤติกรรมอาจเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ จนเจ้าของแมวไม่ทันสังเกต เช่น ระดับกิจกรรม ความอยากอาหาร นิสัยการเลียขน หรือการใช้กระบะทราย ความเครียดระยะสั้นร่างกายสามารถจัดการได้ แต่ความเครียดเรื้อรังระยะยาวอาจมีบทบาทสำคัญต่อการเกิดปัญหาพฤติกรรมและแม้แต่โรคต่าง ๆ
ตรวจสุขภาพสัตวแพทย์เป็นอันดับแรก
แน่นอนว่าการพาไปพบสัตวแพทย์มักเป็นเรื่องเครียด แต่ถ้าคุณสังเกตเห็นพฤติกรรม น้ำหนัก รูปร่าง นิสัยใช้กระบะทราย ความอยากอาหาร หรือการดื่มน้ำเปลี่ยนไป ควรพาแมวไปตรวจทันที อย่าข้ามขั้นตอนสำคัญนี้
วิธีลดความเครียดให้แมวของคุณ
นี่คือ 10 เคล็ดลับเพื่อช่วยคุณลดสาเหตุความเครียดที่พบบ่อย
1. รักษาสุขภาพแมวของคุณ
อย่าข้ามการตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจพบปัญหาสุขภาพตั้งแต่ระยะแรกเพิ่มโอกาสการรักษาสำเร็จและการดูแลอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ให้รักษานิสัยดูแลสุขภาพที่บ้าน เช่น โภชนาการที่ดี การป้องกันปรสิต การดูแลฟัน การกรูมมิ่ง และการตัดเล็บ
2. ลดความเครียดในการไปพบสัตวแพทย์
ความเครียดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แมวไปพบสัตวแพทย์น้อยกว่าสุนัข คุณสามารถลดความเครียดนี้ได้ง่าย ๆ เริ่มจากให้แมวคุ้นเคยกับกระเป๋าพาหนะ โดยวางกระเป๋าไว้ในที่ที่เห็นและโปรยขนมใกล้ ๆ เพื่อช่วยลดความกลัว เมื่อไปคลินิกสัตวแพทย์ ให้พกผ้าเช็ดตัวผืนพิเศษมาใช้คลุมช่องเปิดกระเป๋าเพื่อให้แมวมีความเป็นส่วนตัว ขณะนั่งรอ ให้ถือกระเป๋าไว้บนตักหรือเก้าอี้ข้าง ๆ อย่าวางบนพื้นเพราะจะทำให้แมวเครียดมากขึ้น ถ้ากระเป๋าที่แยกส่วนบนล่างได้ ในช่วงตรวจรักษา คุณสามารถให้แมวอยู่ในส่วนล่างได้
3. การฝึกแมวอย่างสม่ำเสมอ
ลดความเครียดด้วยการทำให้ทุกคนในบ้านมีความเข้าใจและใช้วิธีเดียวกันในการฝึก ตัวอย่างเช่น หากคนหนึ่งไม่อนุญาตให้แมวขึ้นโต๊ะแต่คนอื่นอนุญาต มันจะส่งสัญญาณที่สับสนและทำให้แมวเครียด ฝึกด้วยความใจดีและสม่ำเสมอ
4. สร้างบรรยากาศมื้ออาหารที่สงบสุข
เริ่มจากให้อาหารคุณภาพสูงที่เหมาะกับอายุและสุขภาพของแมว จากนั้นจัดสถานที่ให้อาหารให้สะอาดและน่าเข้าไปกิน ใช้ชามขนาดและรูปทรงที่เหมาะสม ไม่ทำให้หนวดแมวถูกบีบหรือกดทับ วางสถานที่ให้อาหารในบริเวณเงียบและปราศจากเสียงดังกะทันหัน วางชามอาหารและน้ำห่างกันเล็กน้อย เพราะแมวหลายตัวไม่ชอบน้ำอยู่ใกล้อาหาร ในบ้านที่มีหลายแมว ให้แต่ละตัวมีชามอาหารส่วนตัว เพื่อป้องกันแมวตัวหนึ่งแย่งชามอีกตัว ถ้าจำเป็น ให้อาหารแต่ละตัวในห้องแยกกันเพื่อลดความเครียด

To encourage successful mealtimes, add a grain-free topper like CORE Simply Shreds to your cat’s meal.
5. การพบปะสังคมของแมว
อย่าบังคับแมวให้เข้าสังคม ให้แมวกำหนดจังหวะและระดับการมีปฏิสัมพันธ์เอง อย่าฝืนจับหรือลูบถ้าแมวไม่ต้องการ หากแมวยอมให้จับ ให้วางแมวลงก่อนที่เขาจะเริ่มดิ้น รักษาประสบการณ์ให้เป็นบวก คุณสามารถให้รางวัล เช่น ขนมหรือเล่นกับแมวเพื่อกระตุ้นให้เขาเข้าสังคมมากขึ้น แต่ต้องให้แมวเลือกว่าจะรับหรือปฏิเสธเอง
6. การตั้งกระบะทรายที่เหมาะสม
ตรวจสอบว่ากระบะทรายมีขนาดและชนิดที่เหมาะกับแมว ควรยาวประมาณ 1.5 เท่าของความยาวแมวจากปลายจมูกถึงฐานหาง ส่วนทรายแมว ส่วนใหญ่ชอบทรายที่นุ่ม ละเอียด และตักได้ เนื้อสัมผัสสำคัญสำหรับแมว ควรตักทรายอย่างน้อยวันละสองครั้งเพื่อให้มีพื้นที่สะอาดเสมอ วางกระบะในที่เงียบและเข้าถึงง่าย ในบ้านที่มีหลายแมว ให้มีกระบะหลายอันกระจายทั่วบ้าน เพื่อไม่ให้แมวตัวใดต้องข้ามเขตของตัวอื่น กฎทั่วไปคือมีกระบะมากกว่าจำนวนแมว 1 อัน
7. สภาพแวดล้อมและทรัพยากร
แมวชอบอยู่ในโลกที่มีระดับต่างกัน จัดหาไม้ปีนต้นไม้ ที่นั่งสูง หรือที่อื่น ๆ ที่สูงเพื่อให้แมวรู้สึกปลอดภัยและสบาย แมวยังชอบสลับกันระหว่างซ่อนตัวกับการมองเห็น จัดที่ซ่อนสำหรับเวลาที่แมวอยากดูบ้านแบบไม่ถูกพบ แมวที่อยู่ในบ้านต้องแบ่งเขตกัน จึงช่วยลดความเครียดโดยการให้แต่ละตัวมีพื้นที่นอน ซ่อนตัว และทรัพยากรภายในบริเวณที่ชอบ การจัดแบบนี้จะช่วยให้แมวหลายตัวอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ
8. การสื่อสารของแมว
แมวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร และภาษากายของพวกมันบอกคุณได้มากมายเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในใจ จงสังเกตภาษากายแมวและเรียนรู้ว่าแมวกำลังบอกว่า “อย่ารบกวนตอนนี้” หรือ “มาเล่นกับฉันเถอะ”
9. เวลาที่เล่นเพื่อลดความเครียด
เวลาเล่นไม่ใช่แค่ความสนุกและการออกกำลังกาย แต่ยังช่วยปล่อยสารเคมีที่ดีในสมองและช่วยให้แมวสร้างความสัมพันธ์บวกกับสิ่งแวดล้อมและผู้คน การเล่นช่วยลดความเครียดทุกวันและยังช่วยในช่วงเหตุการณ์ที่เครียดเป็นพิเศษ เล่นกับแมวทุกวัน และสร้างกิจกรรมสนุก ๆ สำหรับแมวตอนที่คุณไม่อยู่ เช่น ตัวให้อาหารแบบปริศนา อุโมงค์ และกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อกระตุ้นแมว
10. การเปลี่ยนแปลงชีวิตที่เครียดน้อยลง
แมวเป็นสัตว์ที่ชอบความคุ้นเคย แต่ชีวิตเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง บางครั้งการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ได้ ให้ช่วยแมวผ่านช่วงนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ว่าจะเป็นการมีสมาชิกใหม่ เช่น ลูกน้อย แมวตัวใหม่ หรือการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันทั่วไป ให้ทำอย่างช้า ๆ และให้แมวค่อย ๆ ปรับตัวทีละน้อย แมวจะรู้สึกซาบซึ้งกับความพยายามที่จะช่วยให้ผ่านช่วงเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้อย่างราบรื่น
👉 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :
ทักแชท: m.me/wellnesspetfoodthailand
Website: https://www.wellnesspetfood.co.th/
.
🌟แชร์ชีวิตที่ดีร่วมกัน แชร์ WELLNESS อาหารสัตว์เลี้ยงที่แนะนำโดยสัตวแพทย์ 🌟
🛒 หาซื้อได้แล้ววันนี้ ที่ร้านเพ็ทช็อปชั้นนำทั่วไป