ข้อดีและความเสี่ยงของการให้อาหารสุนัขด้วยอาหารบาร์ฟ

การให้อาหารสุนัขด้วยอาหารบาร์ฟ

เจ้าของสุนัขบางคนให้อาหารบาร์ฟเป็นเพียงของว่างหรือโรยบนอาหารเม็ด ในขณะที่บางคนก็ให้อาหารบาร์ฟอย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่าอาหารบาร์ฟมีวัตถุดิบธรรมชาติแท้ ๆ ที่ให้สารอาหารครบถ้วนและผ่านกระบวนการแปรรูปน้อยที่สุด ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก แน่นอนว่าสารอาหารที่ดีเยี่ยมช่วยสนับสนุนชีวิตที่ยืนยาวและสุขภาพดีทั้งกายและใจของสัตว์เลี้ยง แต่คำถามคือ อาหารรูปแบบไหนกันแน่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสุนัขของเรา?

สิ่งที่เหมาะกับใครคนหนึ่ง อาจไม่เหมาะกับทุกคน

เหมือนกับคนเรา สุนัขแต่ละตัวก็มีความแตกต่างกัน อาหารที่เหมาะกับสุนัขของเพื่อนคุณ อาจไม่เหมาะกับสุนัขของคุณเลย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงความต้องการโภชนาการเฉพาะตัวที่ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ขนาด อายุ และสุขภาพของแต่ละตัว หากคุณกำลังคิดจะเปลี่ยนอาหารประจำวันของสุนัข สิ่งสำคัญที่สุดคือควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าสุนัขของคุณจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมและดีที่สุดตามความต้องการเฉพาะตัว

อาหารสุนัขแบบบาร์ฟคืออะไร?

อาหารแบบนี้จะประกอบด้วยเนื้อสดที่ยังไม่ผ่านการปรุงสุก (มักจะเป็นเนื้อกล้ามเนื้อและเครื่องใน) กระดูกทั้งชิ้นหรือบดละเอียด ผลไม้ ผัก ไข่ดิบ และผลิตภัณฑ์นมบางชนิด ซึ่งจะเตรียมสดใหม่ก่อนให้อาหารสุนัขในแต่ละครั้ง

ข้อมูลที่ขัดแย้งและทำให้สับสน

เมื่อค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของอาหารบาร์ฟ จะพบว่าหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยังค่อนข้างน้อย ทำให้เกิดความสงสัยจากสัตวแพทย์และแพทย์หลายคน แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็จะได้พบกับความกระตือรือร้นจากเจ้าของสุนัขที่ให้อาหารบาร์ฟ ซึ่งเล่าถึงประโยชน์ต่อสุขภาพที่เห็นได้ชัดเจนในสุนัขของพวกเขาอย่างน่าเชื่อถือ

เหตุผลที่สนับสนุนการให้อาหารสุนัขแบบบาร์ฟ

ลองคิดว่าสุนัขของคุณมีบรรพบุรุษที่เป็นสัตว์กินเนื้อ แต่ก็มีวิวัฒนาการเป็นสัตว์กินพืชและสัตว์กินทุกอย่าง หนึ่งในเหตุผลหลักที่เจ้าของสุนัขเลือกให้อาหารบาร์ฟ คือการพิจารณาถึงวิวัฒนาการของสุนัขเอง หมาป่าสีเทา ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของสุนัขในปัจจุบัน เป็นสัตว์กินเนื้อและนักล่าที่เก่งกาจที่อยู่รอดด้วยการกินเนื้อสัตว์เป็นหลัก

แต่ในปัจจุบัน สุนัขได้ผ่านการวิวัฒนาการมาหลายพันปีจนกลายเป็นพันธุ์ต่าง ๆ กว่า 400 สายพันธุ์ ตั้งแต่พันธุ์เล็กอย่างทีคัพพูเดิล จนถึงพันธุ์ใหญ่ขนาดมหึมาอย่างเกรทเดน ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในด้านรูปร่างพันธุกรรม และวิถีชีวิตเมื่อเทียบกับบรรพบุรุษของพวกมัน

แตกต่างจากแมว สุนัขได้วิวัฒนาการมาพร้อมกับยีนที่ช่วยให้พวกมันสามารถสร้างกรดอะมิโนจากคาร์โบไฮเดรต ซึ่งโดยปกติกรดอะมิโนเหล่านี้มักจะได้จากอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นหลัก พูดง่ายๆ ก็คือ สุนัขปัจจุบันถูกจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์กินทุกอย่าง (omnivores) ซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้ทั้งจากอาหารที่มีเนื้อสัตว์และผัก

อาหารบาร์ฟไม่จำเป็นต้องหมายถึงการทำอาหารเองที่บ้าน หรือการต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับร้านเนื้ออาหารบาร์ฟไม่จำเป็นต้องหมายถึงการทำอาหารเองที่บ้าน หรือการต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับร้านเนื้อ

ปัจจุบัน อาหารสุนัขแบบบาร์ฟมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบที่ผลิตมาเพื่อความสะดวก ตั้งแต่แบบสดหรือแช่แข็ง ไปจนถึงอาหารเม็ดที่มีชิ้นเนื้อดิบผสมอยู่ คุณยังสามารถให้อาหารแบบง่าย ๆ เพียงตักและเทได้ตามต้องการ

ข้อดีของการให้อาหารสุนัขแบบบาร์ฟ

ผู้ที่ชื่นชอบการให้อาหารสุนัขแบบดิบอย่างจริงจัง มองว่าอาหารบาร์ฟเป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดในการเลี้ยงสุนัข พวกเขาเล่าประสบการณ์ว่าการให้อาหารบาร์ฟทำให้ขนสุนัขเงางามขึ้น ผิวหนังสุขภาพดีขึ้น ฟันสะอาดขึ้น ระดับพลังงานสูงขึ้น และอุจจาระมีขนาดเล็กลง และไม่ต้องพูดถึงว่าสุนัขก็ชอบอาหารสด ๆ ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ดึงดูดใจมากที่สุด

ข้อเสียของการให้อาหารสุนัขแบบบาร์ฟ

สัตวแพทย์ทั่วไปหลายท่าน รวมถึงองค์การอาหารและยา (FDA) เห็นตรงกันว่าความเสี่ยงจากอาหารบาร์ฟได้รับการบันทึกไว้อย่างชัดเจนในงานวิจัยหลายชิ้นที่ตีพิมพ์ในวารสารสัตวแพทย์ อาหารที่ทำเองบางสูตรพบว่ามีแบคทีเรียก่อโรคจำนวนมาก ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตั้งแต่ความไวต่อกระเพาะอาหารเล็กน้อยจนถึงอาการรุนแรงที่อาจถึงขั้นเสียชีวิตในบางกรณี นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากการปนเปื้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อคน โดยเฉพาะผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้สูงอายุ หรือเด็กเล็ก

การให้อาหารด้วยกระดูกดิบมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การสำลัก กระดูกติดในลำไส้ หรือฟันแตกหรือบิ่นได้

นอกจากนี้ หากคุณวางแผนให้อาหารสุนัขแบบดิบเอง สิ่งสำคัญคืออาหารต้องครบถ้วนและสมดุล เพื่อให้สุนัขได้รับสารอาหารที่จำเป็นทั้งหมด หากอาหารไม่ครบถ้วนและสมดุล สุนัขอาจเกิดภาวะขาดสารอาหารได้ เจ้าของสุนัขหลายคนจึงต้องขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการสัตว์ หรืออาจต้องเสริมอาหารด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จำหน่ายทั่วไป เพื่อให้มั่นใจว่าสุนัขจะได้รับสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่ครบถ้วน

ข้อควรพิจารณาสุดท้ายในการให้อาหารสุนัขแบบดิบคือเรื่องของค่าใช้จ่ายทั้งด้านเงินและเวลา การเตรียมอาหารบาร์ฟที่บ้านด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูงอาจกลายเป็นวิธีการเลี้ยงสุนัขที่มีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะกับพันธุ์ใหญ่ที่ต้องการปริมาณอาหารมากเพื่อให้ได้พลังงานครบตามที่ต้องการ

เจ้าของสุนัขอาจสามารถให้อาหารบาร์ฟที่บ้านได้ แต่การเดินทางหรือช่วงวันหยุดอาจทำให้การให้อาหารแบบนี้กลายเป็นเรื่องยากและไม่สะดวก

สรุปความเสี่ยงของการให้อาหารสุนัขแบบบาร์ฟ

  • อาจมีแบคทีเรียหรือเชื้อโรคที่เป็นอันตรายในอาหารบาร์ฟ
  • มีความเสี่ยงที่เนื้อดิบจะปนเปื้อนจนทำให้คนป่วยได้
  • กระดูกดิบอาจทำให้สุนัขสำลัก หรือทำให้ฟันแตกได้
  • มีค่าใช้จ่ายสูงและต้องใช้เวลามากในการเตรียมอาหาร

อาหารสุนัขแบบบาร์ฟที่ผลิตสำเร็จรูปในเชิงพาณิชย์

หากคุณสนใจประโยชน์จากการให้อาหารสุนัขแบบบาร์ฟ แต่ต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านสุขภาพ การเลือกอาหารบาร์ฟที่ผลิตสำเร็จรูปในเชิงพาณิชย์ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ที่ Wellness สูตร Wellness CORE ของเราออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถเพิ่มอาหารบาร์ฟเข้าไปในมื้ออาหารได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยทุกมื้อ

Wellness CORE+ คืออาหารเม็ดโปรตีนสูงที่ครบถ้วนสมดุล (มีให้เลือกทั้งแบบปราศจากธัญพืชและแบบมีธัญพืชคุณภาพดี) พร้อมกับการเติมเนื้อสัตว์แช่แข็งแห้ง 100% ชิ้นเล็ก ๆ การผสมผสานนี้ทำให้อาหารมีรสชาติอร่อยและเต็มไปด้วยสารอาหารครบถ้วน ที่ช่วยให้สุนัขของคุณเจริญเติบโตอย่างมีสุขภาพดี

👉 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :
ทักแชท: m.me/wellnesspetfoodthailand
Website: https://www.wellnesspetfood.co.th/
.
🌟แชร์ชีวิตที่ดีร่วมกัน แชร์ WELLNESS อาหารสัตว์เลี้ยงที่แนะนำโดยสัตวแพทย์ 🌟

🛒 หาซื้อได้แล้ววันนี้ ที่ร้านเพ็ทช็อปชั้นนำทั่วไป

เกี่ยวกับหน้านี้

วันที่:

15/07/2025

    รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างดีที่สุด

    ลงชื่อเข้าใช้