ทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับโรคไลม์ในสุนัข

โรคไลม์ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียซึ่งแพร่กระจายโดยเห็บ และถือเป็นโรคที่แพร่จากเห็บสู่สัตว์เลี้ยงได้มากที่สุด อาการของโรคมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง เช่น ไตวาย และในบางกรณีอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพื่อปกป้องสุนัขของคุณ การรู้จักโรคไลม์ สัญญาณเตือน วิธีรักษา และช่วงเวลา/สถานที่ที่โรคนี้มักเกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ
โรคไลม์คืออะไร?
โรคไลม์เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ถ่ายทอดผ่าน เห็บขาดำ (Blacklegged Tick) ซึ่งเป็นเห็บสายพันธุ์เล็กมากจนแทบมองไม่เห็น โดยเห็บนี้สามารถแพร่เชื้อไปยัง สุนัข ม้า โคบางสายพันธุ์ มนุษย์ กวางหางขาว และสัตว์ฟันแทะบางชนิด
โรคไลม์พบมากในที่ใด?
แม้จะพบได้ทั่วโลก แต่โรคนี้ถูกตั้งชื่อจากเมือง Lyme, Connecticut สหรัฐอเมริกา หลังจากเกิดการระบาดครั้งใหญ่ที่นั่นในปี 1975 ปัจจุบันยังพบได้บ่อยในพื้นที่นั้น
ตามรายงานของ CDC (ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ) 95% ของผู้ติดโรคไลม์ในสหรัฐมาจาก 14 รัฐ ได้แก่:
คอนเนตทิคัต
เดลาแวร์
เมน
แมริแลนด์
แมสซาชูเซตส์
มินนิโซตา
นิวแฮมป์เชียร์
นิวเจอร์ซีย์
นิวยอร์ก
เพนซิลเวเนีย
โรดไอแลนด์
เวอร์มอนต์
เวอร์จิเนีย
วิสคอนซิน
นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยใน แคลิฟอร์เนียตอนเหนือ, โอเรกอน และ วอชิงตัน ด้วย
การติดเชื้อจะไม่เข้าสู่กระแสเลือดทันที ต้องรอให้เห็บเกาะอยู่บนตัวสุนัขอย่างน้อย 24–36 ชั่วโมง ก่อนจึงจะแพร่เชื้อแบคทีเรีย Borrelia burgdorferi ได้
อาการของโรคไลม์ในสุนัข
ต่างจากในคนที่มีผื่นแดงรูปวงกลม สุนัขจะไม่มีผื่น จึงสังเกตได้ยาก และอาจใช้เวลานานถึง 2–5 เดือน กว่าจะแสดงอาการ โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่:
ขาอ่อนแรง หรือเดินกะเผลก (มักเป็นอาการแรก ๆ)
ข้อต่ออักเสบ
ปวดและบวมที่ข้อต่อ (มักพบที่หัวเข่าและข้อศอก)
ไข้
เบื่ออาหาร
ขาดน้ำ
ไม่ค่อยอยากเคลื่อนไหว
ต่อมน้ำเหลืองโต
หายใจลำบาก
แพ้การสัมผัส
ซึมเศร้า
ในบางกรณีอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น หัวใจผิดปกติ หรือ ระบบประสาทเสียหาย อาการอาจเกิดขึ้นเป็นระยะ และเลือนหายไปเอง ซึ่งทำให้การวินิจฉัยยาก
ช่วงที่โรคมักระบาดคือ พฤษภาคมถึงสิงหาคม โดยเฉพาะใน มิถุนายนและกรกฎาคม หากมีอากาศร้อนชื้นและฝนน้อย ฤดูเห็บอาจเริ่มเร็วกว่าปกติ
การรักษาและป้องกันโรคไลม์
แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นมากหลังพบโรคในปี 1975 แต่ในหลายรัฐที่มีการตื่นตัวเรื่องโรคไลม์กลับพบว่าจำนวนผู้ป่วยลดลง นั่นเป็นผลจากการตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการป้องกันและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อพิจารณาการ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไลม์ หรือใช้ ผลิตภัณฑ์ป้องกันเห็บ
สิ่งที่คุณสามารถทำเพื่อป้องกันได้มีดังนี้:
ตัดหญ้าให้สั้นเสมอ
ตัดแต่งพุ่มไม้ รอบบ้านให้เรียบร้อย
หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มี กองใบไม้ หญ้าสูง ป่า และพื้นที่ชื้น
ตรวจหาตัวเห็บ บนตัวสุนัขทุกวัน หากพบให้ใช้ แหนบดึงตรงจากโคนผิวหนัง อย่าบิดหรือฉีก เพราะอาจทำให้ติดเชื้อ
ใช้ผลิตภัณฑ์ ไล่เห็บ เช่น ปลอกคอ สเปรย์ หรือยาทาภายนอก โดยเฉพาะหากจำเป็นต้องพาสุนัขเข้าป่า
การรักษาเมื่อสุนัขติดเชื้อ
หากสุนัขติดโรคไลม์ ต้องพาไปพบสัตวแพทย์ทันที โดยมักจะได้รับยาปฏิชีวนะ เช่น Doxycycline ร่วมกับยาแก้อักเสบเพื่อลดอาการปวดและบวม
ข้อควรระวัง:
การรักษาช่วยบรรเทาอาการได้ดี แต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อได้หมด อาการอาจกลับมาอีก และยังมีความเสี่ยงเกิด โรคไต หรือภาวะแทรกซ้อนรุนแรงอื่น ๆ ได้
อีกสิ่งที่สำคัญคือ โรคไลม์ในสัตว์เลี้ยงเป็น โรคที่ต้องรายงานต่อ CDC (ศูนย์ควบคุมโรคแห่งสหรัฐฯ) เพื่อใช้ในการติดตาม ควบคุม และป้องกันการระบาด
สรุป
การรู้เท่าทันโรคไลม์คือพลังในการปกป้องสุขภาพสัตว์เลี้ยงของคุณ และการให้อาหารธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารจาก Wellness Pet Food ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้สุนัขของคุณมีชีวิตที่ยืนยาว แข็งแรง และกระฉับกระเฉงมากขึ้น
👉 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :
ทักแชท: m.me/wellnesspetfoodthailand
Website: https://www.wellnesspetfood.co.th/
.
🌟แชร์ชีวิตที่ดีร่วมกัน แชร์ WELLNESS อาหารสัตว์เลี้ยงที่แนะนำโดยสัตวแพทย์ 🌟
🛒 หาซื้อได้แล้ววันนี้ ที่ร้านเพ็ทช็อปชั้นนำทั่วไป